Tuesday, May 8, 2012

...อากง...สิ้นลมแล้วในคุก๑๑๒...


ในที่สุด, อิสรภาพก็เดินทางมาถึงช้ากว่าความตาย
ยุติธรรมรอได้ หลีกทางให้บ้านเมืองสงบ
เขาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ในวันแห่งรักและพักรบ
สงครามยังไม่จบ คนตายกี่ศพช่างแม่มัน!

"กลับบ้านเรานะ เขาปล่อยตัวลื้อแล้ว"
พลเมืองปลายแถว ตายแล้วถึงได้สูดกลิ่นฝัน
เสรีภาพของคนจน ยากเหลือทนต้องกัดฟัน
หรือต้องใช้ความตายเท่านั้น เข้าแลกมันจึงจะได้มา

ถามคนใจดำ หัวใจคุณทำด้วยอะไร
ถ้อยคำนั้นบาดเนื้อใคร เจ็บตรงไหนหรือคุณเจ้าข้า
หรือเอสเอ็มเอสคือดาบคม ปักจมหัวใจให้เสียน้ำตา
เลือดไหลตกกี่หยดหรือคะ ถึงต้องฆ่าต้องแกงกัน

ประเทศด้อยพัฒนา เสรีภาพเดินช้ากว่ามัจจุราช
ความตายลอยอยู่ในอากาศ อยู่หลังภาพวาดที่มีทุกบ้าน
ประตูคุกเปิดไว้รอ และสูบกินคนอยู่ทุกวัน
บ้านเมืองวิปริตนี้ไม่ต้องการ เห็นไพร่ข้ามผ่านเป็นประชาชน

อากงตายแล้ว เขาเป็นเพียงชายชรา
ราษฎรธรรมดา ทำมาหากินเดินถนน
ก้มหัวให้กติกา ความเป็นคนต่ำกว่ามาตรฐานสากล
ทั้งที่มึงก็คน กูก็คนเหมือนเหมือนกัน

อากงตายแล้ว เขาตายในคุก
นี่ไม่ใช่ยุค ประชาธิปไตยที่ใฝ่ฝัน
รัฐบาลของเรา เอาเลือดเพื่อนเรารองใส่พาน
แล้วคุกเข่าหมอบคลาน ส่งให้เผด็จการได้ดื่มกิน

อากงตายแล้ว ใครฆ่าชายชรา
ยุติธรรมที่ล่าช้า คืออาชญากรทั้งสิ้น
มนุษย์ราคาถูก มีอยู่มากมายเต็มแผ่นดิน
หายใจอยู่อย่างรวยริน ได้กลิ่นความตายอยู่ทุกวัน

โดย เพียงคำ ประดับความ ที่มา ประชาไท



No comments:

Post a Comment