บนทางที่ร่วมเดินกันมา
เธอสอนให้ฉันกล้าหยัดยืน
ต้านทวนกระแสคลื่น
ล้มแล้วลุกขึ้นยืนสู้ใหม่
สายลมเข้าโถมท้า
ชิงช้าแห่งมิตรไม่แกว่งไกว
สะพานขาดลงกลางใจ
โดดเดี่ยวในเสียงก่นประณาม
เธอสอนให้ฉันกล้าหยัดยืน
ต้านทวนกระแสคลื่น
ล้มแล้วลุกขึ้นยืนสู้ใหม่
สายลมเข้าโถมท้า
ชิงช้าแห่งมิตรไม่แกว่งไกว
สะพานขาดลงกลางใจ
โดดเดี่ยวในเสียงก่นประณาม
ไม่มีดอกไม้ให้ฝันถึง
ความเศร้าจึงกัดกินหัวใจ
บางคราน้ำตาไหล
เมื่อฝันกลายถูกเขาเหยียดหยาม
"การยืนยัน" มันไม่ง่าย
ในนครแห่งความเถื่อนทราม
ปฏิปักษ์ฝังกลบคำถาม
หลากร้อยนิยามมิตรไม่นำพา
หอคอยสูงนั้นเหน็บหนาว
งาช้างสีขาวล้วนเปล่าเปลือง
เสลาสลักอย่างปราดเปรื่อง
ผลิตสร้างเรื่องเพิ่มมูลค่า
ล้วนแต่บรรณาการ
ถ่างชนชั้นสุดลูกหูลูกตา
มีไพร่ ผู้ดี มีขี้ข้า
ชาวบ้านหูหนาตาเถื่อนเหมือนเคย
ก้าวย่างอย่างมั่นคง
ไม่ยอมเป็นผงเถ้าธุลี
ยืนยันในศักดิ์ศรี
ฝันที่เคยมีไม่แห้งระเหย
ยิ้มรับคำดูแคลน
หนักและแน่นกับคำหยามเย้ย
ไม่หวั่นไหวระคายผิวเลย
โอ้ใจเอ๋ย คารวะหัวใจ
เบื้องหน้ากระบอกปืน
เธอหยัดยืนอย่างทระนง
ละทิ้งหอคอยที่สูงส่ง
ลงมาลุยคลุกดินโคลนได้
"เจ้าเท่ากับคนธรรมดา"
ยืนยันจนกว่าจะหมดลมหายใจ
ประวัติศาสตร์จักถูกสร้างใหม่
ให้คนนั้นได้เป็น "คนเหมือนกัน"
ความเศร้าจึงกัดกินหัวใจ
บางคราน้ำตาไหล
เมื่อฝันกลายถูกเขาเหยียดหยาม
"การยืนยัน" มันไม่ง่าย
ในนครแห่งความเถื่อนทราม
ปฏิปักษ์ฝังกลบคำถาม
หลากร้อยนิยามมิตรไม่นำพา
หอคอยสูงนั้นเหน็บหนาว
งาช้างสีขาวล้วนเปล่าเปลือง
เสลาสลักอย่างปราดเปรื่อง
ผลิตสร้างเรื่องเพิ่มมูลค่า
ล้วนแต่บรรณาการ
ถ่างชนชั้นสุดลูกหูลูกตา
มีไพร่ ผู้ดี มีขี้ข้า
ชาวบ้านหูหนาตาเถื่อนเหมือนเคย
ก้าวย่างอย่างมั่นคง
ไม่ยอมเป็นผงเถ้าธุลี
ยืนยันในศักดิ์ศรี
ฝันที่เคยมีไม่แห้งระเหย
ยิ้มรับคำดูแคลน
หนักและแน่นกับคำหยามเย้ย
ไม่หวั่นไหวระคายผิวเลย
โอ้ใจเอ๋ย คารวะหัวใจ
เบื้องหน้ากระบอกปืน
เธอหยัดยืนอย่างทระนง
ละทิ้งหอคอยที่สูงส่ง
ลงมาลุยคลุกดินโคลนได้
"เจ้าเท่ากับคนธรรมดา"
ยืนยันจนกว่าจะหมดลมหายใจ
ประวัติศาสตร์จักถูกสร้างใหม่
ให้คนนั้นได้เป็น "คนเหมือนกัน"
No comments:
Post a Comment